Cathotel99 (แคทโฮเทล99) Cat Hotel&Grooming

ความแตกต่างระหว่าง แมวสก็อตติช กับ แมวบริติช และความเข้าใจผิดของคนไทยเกี่ยวกับแมวสก็อตติช

เมื่อนำมาตราฐานพันธุ์แมวตาม WCF Breed Standard ของแมวสก็อตติชและแมวบริติชมาเปรียบเทียบกัน เราจะพบว่าแมวสองพันธุ์นี้ มีหลายส่วนที่คล้ายคลึงกันมาก แต่มีความแตกต่างสำคัญที่ลักษณะ “หู” เพราะแมวสก็อตติช คือ แมวหูพับ ซึ่งถ้าใครจะเลี้ยงแมวสก็อตติช ก็ต้องมุ่งขยายพันธุ์ให้ได้แมวหูพับสวย และสุขภาพดี ไม่ใช่มองแต่ความน่ารักแล้วขยายพันธุ์ให้มีแต่แมวสก็อตติช “หูตั้ง” จนแมวสก็อตติชหูตั้งออกมาเกลื่อนตลาด หรืออีกนัยหนึ่งคือ ผลิตแมวบริติชปลอม บริติชเก๊ หรือ บริติชเสินเจิ้น แต่หลายท่านอาจทำไปเพราะไม่ทราบ หรืออาจเลี้ยงแมวเพราะหลงไหลความน่ารักน่าเอ็นดูของแมว และไม่ได้สนใจรายละเอียดการอนุรักษ์พันธุ์แมว ดังนั้น สมาคมฯขออธิบายการเลี้ยงและขยายพันธุ์แมวสก็อตติชเชิงอนุรักษ์ ให้ทราบทั่วกันดังนี้

✴️ ประเด็นที่หนึ่ง เราต้องแยกแยะความแตกต่างระหว่างแมวสองพันธุ์นี้ให้ได้ก่อน ซึ่งเมื่อนำ WCF Breed Standard ของแมวสองพันธุ์นี้มาอ่านเทียบกัน เราจะพบว่า แมวมีความเหมือนกันเกือบทุกส่วน ยกเว้นที่ หู และ หาง

แมวสก็อตติช มีหูขนาดเล็ก ปลายหูค่อนข้างมน และพับลงไปด้านหน้า ปลายหูชี้ไปบริเวณปลายจมูก ส่วนแมวบริติช มีหูขนาดปานกลาง มีฐานกว้าง ปลายหูค่อนข้างมน

แมวสก็อตติชจะมีหางที่ยาวกว่า และหางไม่หนาเป็นพวงเหมือนแมวบริติช

✴️ ประเด็นที่สอง เราต้องเข้าใจวิธีชื่นชมความงาม (appreciate) ของแมวสองพันธุ์นี้ เพราะจุดเด่นความสวยของแมวสองพันธุ์นี้แตกต่างกัน ซึ่งเราสามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้ จากการอ่าน “ตารางการกระจายน้ำหนักคะแนน” ให้ส่วนต่างๆของร่างกายแมว

คะแนนรวม 100 คะแนน คุณดูตารางการกระจายน้ำหนักคะแนนเลย (รูปในโพส)

แมวสก็อตติชให้ความสำคัญเรื่องหู โดยให้น้ำหนักไว้ 30 คะแนน ในขณะที่แมวบริติชไม่พิจารณาเรื่องหู คะแนนเป็น 0

แมวสก็อตติชให้ความสำคัญเรื่องหาง โดยให้น้ำหนักไว้ 15 คะแนน ในขณะที่แมวบริติชไม่พิจารณาเรื่องหาง คะแนนเป็น 0

แมวบริติชให้ความสำคัญกับ กระโหลกเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยลำตัว และความยาวของเส้นขน ซึ่งน้ำหนักคะแนนของ 3 เรื่องนี้คิดเป็น 65 จาก 100 ในขณะที่แมวสก็อตติชให้น้ำหนัก 3 เรื่องนี้แค่ 25 คะแนนเท่านั้น

➡️ ตารางการกระจายน้ำหนักคะแนน บอกอะไรเรา? มันบอกวิธี เราเลือกแมว!

คุณจะหาแมวสก็อตติช คุณไม่ต้องไปดูความล่ำสันของแมว หัวกระโหลกใหญ่ หรือตาแบ๊วอะไรเลย ขอให้คุณดู “หูแมว” เป็นเรื่องแรก แมวสก็อตติช คือ แมวหูพับ หากหูพับไม่สวย มันก็จบกัน สรุปคือ หากจะหาแมวสก็อตติชดีๆเข้าบ้าน ต้องดูเรื่องหูเป็นเรื่องแรก จากนั้นดูภาพรวมๆของลำตัว หัวกระโหลกและดวงตา และต้องไม่ลืมตรวจความยืดหยุ่นของหาง

คุณจะหาแมวบริติช คุณก็ต้องดูแมวที่หัวกระโหลกใหญ่ๆ ลำตัวล่ำๆ และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่คนไทยไม่ทราบกันคือ ต้องเลือกแมวบริติชที่ขนไม่ยาว ขนไม่อุย ตลาดบ้านเรายังไม่พัฒนาจึงเน้นแต่ความน่ารัก ชอบแมวขนอุยๆเพราะมันน่ารัก น่ากอดดี แต่นั้นแหละ ขอให้ทราบร่วมกันว่ามันไม่ใช่แมวบริติชที่สวย

ยกตัวอย่างเพิ่มเติม (ไม่มีในตาราง แต่หาดูได้จาก WCF Breed Standard) การเลือกแมวพันธุ์ อะบิสซิเนี่ยน (Abyssinian) นำหนักคะแนนเรื่องขนสูงถึง 50 จาก 100 คะแนน ดังนั้น แมวแต่ละพันธุ์ เค้ามีจุดเด่นไม่เหมือนกัน เราจะเลือกแมวก็ต้องดูจุดเด่นของแมวแต่ละพันธุ์นั้นเป็นหลัก

#ปัญหาการขยายพันธุ์แมวสก็อตติชในประเทศไทย

องค์กรแมวสากลบางแห่ง เช่น FIFe และ GCCF ไม่รับรองแมวสก็อตติช เนื่องจากมีความเห็นว่า แมวพันธุ์นี้มีข้อด้อยเรื่องกระดูก มีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องขยายพันธุ์ด้วยความระมัดระวัง และผู้เลี้ยงต้องมีความเข้าใจข้อด้อยของแมวสก็อตติชและมีคุณธรรมควบคู่กันไป ซึ่งสององค์กรนี้ ไม่ไว้ใจมนุษย์ และไม่เชื่อว่ากฏระเบียบต่างๆทีเรากำหนดขึ้นเพื่อเป็นเงื่อนไขการขยายพันธุ์แมวสก็อตติชนั้น จะได้รับการเคารพและปฏิบัติอย่างถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ ทั้งสององค์กรนี้รู้ทฤษฎีแน่นอน แต่เค้าไม่ไว้ใจมนุษย์ เค้ามั่นใจว่าทุกคนรักแมว แต่ทุกคนคงไม่ได้ศึกษาวิธีเลี้ยงและขยายพันธุ์แมวสก็อตติชที่ถูกต้อง ดังนั้น เพื่อตัดปัญหาไม่ไห้ความรู้ไม่ถึงการณ์ หรือความประมาทของมนุษย์ สร้างแมวสก็อตติชไม่แข็งแรงเกิดมาบนโลกใบนี้ เค้าจึงตัดสินใจไม่รับรอง และไม่อนุญาติให้ขยายพันธุ์แมวสก็อตติช

ส่วน CFA และ WCF รับรองพันธุ์แมวสก็อตติช และหวังว่ามนุษย์จะขยายพันธุ์แมวพันธุ์นี้อย่างมีคุณธรรมและถูกจรรยาบรรณ

แมวสก็อตติชมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ มีหูพับแนบกระโหลก เป็นแมวที่น่ารักพันธุ์หนึ่ง แต่เป็นแมวที่เลี้ยงยากและขยายพันธุ์ให้ได้ดีลำบาก (เน้นเลยนะคะ สก๊อตติชเป็นแมวที่เลี้ยงให้สวยยาก และขยายพันธ์ุให้ได้ดีลำบาก) แต่บ้านเราก็ผลิตกันมาแบบรู้เรื่องครึ่งๆกลางๆ จนมีแมวสก็อตติชด้อยคุณภาพและไม่แข็งแรงล้นตลาด ซึ่งการที่แมวสก็อตติชด้อยคุณภาพและไม่แข็งแรงเกิดมานั้น มันไม่ใช่ความผิดแมว แต่มันเป็นความผิดของคนเลี้ยง เป็นเรื่องน่าเวทนาของแมวที่เราทุกคนต้องช่วยกันแก้ไข เราควรต้องเลี้ยงแมวเชิงอนุรักษ์ รักษาคุณค่าพันธุ์แมว ให้เค้าสวยและแข็งแรงอย่างที่ควรเป็น ซึ่งปัญหาที่สมาคมพบเห็นเป็นประจำ มีดังนี้

1️⃣ ไม่เข้าใจเหตุผลการให้แมวสก็อตติช ผสมกับแมวบริติช

จริงๆเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ (Not Recommended) เนื่องจาก หลักการขยายพันธุ์แมวที่สำคัญคือ แมวพันธุ์ไหนก็ต้องผสมกับพันธุ์นั้น แต่คนเลี้ยงแมวสก็อตติชในบ้านเรา ไม่ทราบที่มาที่ไปของเหตุผลทำไม WCF ถึงอนุญาติให้เอาแมวบริติชมาผสมกับสก็อตติชได้ บ้านเราก็ผสมกันใหญ่ ซึ่งสมาคมขออธิบายให้ทราบทั่วกัน ดังนี้

แมวสก็อตติช ไม่ใช่แบบโบราณดั้งเดิม เป็นพันธุ์แมวที่เพิ่งได้รับการยอมรับจากองค์กรแมวสากลต่างๆช่วงประมาณปี 1980 (หรือประมาณ 40 ปีนี้เอง) และมีเงื่อนไขสำคัญในการขยายพันธุ์คือ ต้องเอาแมวหูพับผสมกับแมวหูตั้ง “เท่านั้น” ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญวงการแมวทั้งหลายจึงเห็นพ้องต้องกันว่า มันมีความเสี่ยงที่จำนวนแมวสก็อตติชหูตั้งจะมีไม่พอใช้ขยายพันธุ์ ดังนั้น จึงอนุโลมให้เอาแมวบริติชไปใช้แทนได้ ส่วน CFA อนุโลมรวมไปถึง อเมริกันช็อตแฮร์ ด้วย (WCF อนุโลมเฉพาะแมวบริติช) ด้วยเหตุผลนี้สก็อตติชถึงไปผสมกับบริติชได้ แต่ WCF ตั้งท่าจะยกเลิกการอนุโลมนี้ไม่ช้าก็เร็ว เนื่องจากปัจจุบัน ปัญหาการขาดแคลนแมวสก็อตติชหูตั้ง ไม่ได้เป็นประเด็นที่ต้องกังวลอีกต่อไป

2️⃣ เข้าใจไม่ครบถ้วนกระบวนการเรื่อง เอาแมวบริติชไปผสมเพื่อปรับปรุงโครงสร้างแมวสก็อตติช

เรื่องนี้ ต้องขยายความให้หมดคือ มันหมายถึงต้องเอาบริติช (ตาส้ม) เช่นพวกสีบลู ตัวใหญ่ๆ ไปผสมเพื่อปรับโครงสร้าง แต่บ้านเรา ดันเอาแมวบริติชสีเงิน/สีทอง (ตาเขียว) ไปผสมกับสก็อตติช ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เนื่องจาก แมวบริติชสีทอง/สีเงิน ไม่ใช่แมวที่มีโครงสร้างใหญ่บึกบึนที่จะไปใช้ปรับโครงสร้างแมวสก็อตติช! ต้องเลิกทำแบบนี้ค่ะ

3️⃣ ความไม่เข้าใจเรื่องสีแมวสก็อตติช

สีเงิน/สีทอง ไม่ใช่สีพื้นฐานของแมวสก็อตติช หากจะพัฒนาให้สวย ต้องสิ้นเปลืองอีกมาก (อ่านตรงนี้ดีๆ เราไม่ได้บอกว่าทำไม่ได้ แต่เราบอกว่าทำให้สวยได้แต่ต้องสิ้นเปลืองอีกมาก) อีกทั้ง พื้นฐานแมวสก็อตติชสีเงินหรือทองในบ้านเรา คือ ใกล้ศูนย์ (แทบไม่มีเลย)

4️⃣ ความไม่เข้าใจเรื่องการผสมข้ามสีตา

ปัญหาที่พบเป็นประจำคือ เอาแมวบริติชสีเงินหรือสีทอง (ตาเขียว) ไปผสมกับแมวสก็อตติชสีธรรมดาทั่วไป ผลที่ได้คือ ลูกแมวออกมาสีพัง เกิดมาเป็นลายสลิดทั้งนั้น แล้วก็บ่นกันว่าทำไมลูกแมวบ้านเราสีไม่สวย ดังนั้น สมาคมแนะนำให้เลิกทำแบบนี้นะคะ #เลิกเอาแมวบริติชสีเงินหรือสีทองไปผสมกับแมวสก็อตติชสีธรรมดาทั่วไป เพราะการด้อยค่ามันมี 2 เด้งคือ 1) คุณไม่ได้ปรับปรุงโครงสร้างลำตัวให้สายตระกูลสก็อตติช ด้วยเหตุผลข้อที่เอ่ยไปแล้วข้างบนนี้ และ 2) สีของลูกแมวคุณจะออกเป็นลายสลิด ไม่มีเอกลักษณ์อะไร (เว้นแต่อยากได้แมวลายสลิดด็ทำกันไป)

5️⃣ ลืมหรือไม่เข้าใจคุณค่าแมวสก็อตติช

ต้องท่องจำกันไว้นะคะ “สก็อตติช คือ แมวหูพับ” หากจะเลี้ยง ก็ต้องวางแผนพัฒนาหูพับ การที่เอาสก็อตติชหูตั้งผสมบริติชเพื่อได้ลูกสก็อตติชหูตั้ง (ทั้งครอก) เป็นการผสมที่ผิดวัตถุประสงค์การพัฒนาสายพันธุ์สก็อตติช

หากต้องการปรับโครงสร้างด้วยการเอาบริติช (ตาส้ม) ไปผสมสก็อตติชนั้น สิ่งที่คาดหวังคือ จะได้ลูกสก็อตติชหูตั้งที่โครงร่างใหญ่ ซึ่งเราจะนำลูกแมวสก็อตติชหูตั้งพวกนี้แหละไปพัฒนาผสมกับสก็อตติชหูพับรุ่นต่อๆไป ส่วนลูกหูพับที่ได้จากการเอาบริติชผสมกับสก็อตติชนั้น ส่วนใหญ่แทบจะคัดทิ้งเพราะหูพับไม่สวย แต่บ้านเราก็ดันเอาแมวหูพับพวกนี้มาขยายพันธุ์กันต่อ ผลที่ได้คือ แมวสก็อตติชหูดีดด้อยคุณภาพเกลื่อนตลาด ดังนั้น ต้องต้องเลิกวงจรด้อยคุณภาพนี้ค่ะ

✴️ ต้องยึดหลักนี้ไว้เลยนะคะ การที่จะผลิตแมวสก็อตติชหูพับสวยสนิทเพื่ออนุรักษ์พันธุ์แมวนั้น ความสำคัญอย่างสุดซึ้งอยู่ที่การคัดสรรพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ภาษาอังกฤษเรียกว่า selective breeding ต้องเอาแมวหูพับระดับ 2 หรือ 3 มาขยายพันธุ์ “เท่านั้น” ดังนั้น #บ้านเราต้องเลิกเอาแมวสก็อตติชหูดีดมาขยายพันธุ์กันได้แล้วนะคะ ช่วยกันพัฒนาค่ะ

➡️ บทบาทของสมาคม ARC ในการพัฒนาสายพันธุ์สก็อตติชในประเทศไทย

1️⃣ สมาคมไม่สนับสนุนการเลี้ยงแมวมากกว่า 1 พันธุ์ในบ้าน ชอบหลายพันธุ์ก็รับแมวมาเลี้ยงได้หมด แต่ทำหมันนะคะ เลือกพันธุ์ที่ต้องการเก็บไว้พัฒนาเพียงแค่พันธุ์เดียว ดังนั้น เราไม่สนับสนุนบ้านที่เลี้ยงแมวบริติช (โดยเฉพาะบริติชสีเงินหรือสีทอง) และแมวสก็อตติชปะปนกัน

นโยบายสมาคมข้อนี้ นอกจากต้องการปรับมาตรฐานการเลี้ยงแมวสก็อตติชแล้ว สมาคมแนะนำด้วยความจริงใจว่า ชีวิตคุณจะเหนื่อยมาก ในการที่ต้องมาคอยหาทางหลีกเลี่ยงป้องกันแมวไม่ให้ผสมข้ามพันธุ์กัน เราควรเลี้ยงแมวอย่างมีความสุขและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตลอดอายุแมว แมวอยู่กับเรา 10 กว่าปี ตอนเด็กๆ เราเลี้ยงเค้าปะปนพันธุ์กันได้ แต่คุณต้องถามตัวเองคุณว่า พร้อมมั๊ยที่ต้องคอยกังวลต้องคอยหาทางหลีกเลี่ยงป้องกันแมวไม่ให้ผสมข้ามพันธุ์กันเป็นเวลา 10 ปี เราเห็นมาแทบทุกบ้านตั้งแต่มืออาชีพถึงมือใหม่ มีหลุดผสมกันทั้งนั้น เราเชื่อว่าทุกคนคิดดี ตั้งใจดี แต่ชีวิตจริงมันพลาดกันง่ายๆ และพลาดกันเสมอ

2️⃣ สมาคมต้องการให้สังคมแมวบ้านเรา ยุติการผลิตแมวบริติชปลอม บริติชเก๊ หรือ บริติชเสินเจิ้น จะเลี้ยงแมวสก็อตติช ก็ต้องเข้าใจจุดเด่นของแมวสก็อตติชที่เป็นแมวหูพับ (หากชอบแมวหูตั้ง ก็แนะนำให้เลี้ยงพันธุ์อื่นที่ไม่ใช่สก็อตติช) ดังนั้น สมาคมมีนโยบาย "ไม่ออกใบเพ็ดดีกรี" ให้ลูกแมวที่เกิดจาก แมวบริติช ผสมแมวสก็อตติชหูตั้ง (หรือ แมวสก็อตติชหูตั้ง ผสมแมวสก็อตติชหูตั้ง) เนื่องจากลูกทุกตัวจะเป็นสก็อตติชหูตั้งทั้งหมด เว้นแต่ ฟาร์มนั้นๆได้ขออนุญาตไว้ล่วงหน้า และชี้แจงเหตุผลที่ฟังแล้วเป็นการพัฒนาพันธุ์แมวสก็อตติช ...
⏏︎ Open full postSee Less

2 months ago